ทุกวันนี้ผมได้รับการติดต่อให้ช่วยทำเว็บไซต์วันหนึ่งๆเยอะเลยทีเดียว นั่นแสดงให้เห็นว่า ผู้คนเริ่มเห็นความสำคัญของการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้วหล่ะครับ ซึ่งหลังๆมานี้เราจะสังเกตได้ว่ามีเว็บไซต์เกิดใหม่นับไม่ถ้วน ด้วยเพราะว่าเทคโนโลยีก้าวกระโดดไปเยอะ การพัฒนาเว็บทำได้รวดเร็วขึ้น และสื่ออินเตอร์เน็ตก็เข้าถึงประชาชนได้ดีกว่าเดิมนั่นเอง
แต่ก็อย่างที่ผมพูดไปครับ “เว็บเกิดใหม่นับไม่ถ้วน” นั่นก็หมายความว่า แน่นอน เว็บที่นำเสนอข้อมูลที่มีกลุ่มเป้าหมายอย่างเดียวกับเรา ก็ไม่ได้มีเพียงแค่เราเท่านั้น แต่มีเยอะมาก บางกิจการคู่แข่งเยอะจนนับไม่ไหวกันเลยทีเดียว ปัญหาที่ท้าทายอย่างมากสำหรับบรรดาเจ้าของเว็บไซต์ที่ควรจะนำมาคิดวิเคราะห์กันนั่นก็คือ “ทำอย่างไรให้คนเข้าชมเว็บไซต์”
นี่เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาเลยครับ เพราะหลังจากที่เราเปิดตัวเว็บแล้ว แต่ไร้วี่แววคนเข้าชม เว็บก็เหงาหงอย ของก็ขายไม่ออก กลายเป็นว่า ทำเว็บซะหรู แต่เอาไว้ดูเอง มันน่าปวดจิตเสียนี่กระไร
และวันนี้ผมจะพาไปรู้จักหลักการ “พื้นฐาน” ที่ควรรู้ว่าทำเว็บอย่างไร แล้วให้มีคนเข้าชมครับ
จริงๆหลักการพวกนี้ เราเรียกกันว่า SEO หรือ Search Engine Optimization นั่นเองครับ สำหรับใครที่ไม่คุ้นหู หรือมือใหม่ในวงการเว็บไซต์ ผมก็จะพูดคร่าวๆ ว่า SEO ก็คือการทำเว็บให้ติดอันดับดีๆในบรรดาเว็บค้นหาดังๆ เช่นพวก Google เป็นต้นครับ เพราะว่าเว็บมันมีเยอะ ดังนั้นเวลาเราจะหาอะไรสักอย่าง เราก็ต้องพึ่งพาเครื่องมือค้นหาของเว็บค้นหา ถ้าเว็บของเราติดอันดับต้นๆของผลการค้นหา ก็แน่นอนครับว่าคนก็จะเข้าชมมากกว่าเว็บที่อยู่ท้ายๆ และนี่แหล่ะครับ ที่เป็น “หัวใจ” ที่จะทำให้เว็บของเรามีคนเข้าชม
SEO เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ และค่อนข้างจะสลับซับซ้อนสักหน่อย ถ้าจะให้ศึกษาถึงแก่นลึกแก่นแท้แม่เจ้าจนถึงรากเหง้าของมัน อาจจะใช้เวลาเป็นปีๆในการเรียนรู้ แม้กระนั้นเทคโนโลยีก็ก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ คุณก็ต้องศึกษามันตลอดเวลาครับ แต่ในบทความนี้ผมคงจะไม่เจาะลึกถึงระดับนั้น แต่จะมาสรุปย่อๆให้รู้ว่า “หลักๆที่เราจำเป็นต้องรู้” มีอะไรบ้าง เริ่มกันเลยครับ
[thetext]On Page Optimization[/thetext]
เรื่องแรกที่ควรจะทราบก็ควรจะเป็นเรื่องที่ “เป็นเว็บของคุณเอง” ครับ On-page Optimization ก็คือทุกสิ่งอย่างที่ปรากฎในเว็บไซต์ของคุณครับ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาในหน้านั้นๆ คีย์เวิร์ดในหน้านั้น แท็ก Title, Heading และ alt-text หรือคำอธิบายภาพประกอบในเว็บของคุณ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวที่ google เข้ามายังเว็บไซต์เราแล้ว มันจะทำการ indexed หรือเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเว็บของเราไว้ครับ เมื่อมันเข้ามาในเว็บเราแล้ว มันก็จะเก็บว่าเว็บหน้านี้พูดถึงอะไร มีอะไรโดดเด่น (ตัวหนา ตัว Heading) มีรูปอะไรบ้าง(เก็บจากคำอธิบายรูป)
พอรู้อย่างนี้แล้ว ก็น่าจะทราบไอเดียคร่าวๆนะครับว่า เว็บของเราควรจะปรับแต่งอย่างไร เนื้อหาเว็บก็ต้องดี มีคำพูดมากพอที่จะดึงดูด google ได้ เว็บที่มีแต่รูปก็มีโอกาสค้นเจอน้อยกว่าเว็บที่มีข้อความเยอะๆครับ เพราะ ณ ขณะนี้ google เองก็เหมือนจะเน้นเก็บ text มากกว่า และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ว่า ทำไม๊ทำไม เว็บ Flash ทั้งหลายถึงไม่ค่อยจะโผล่ให้เห็นในผลของการค้นหา ก็เพราะว่าบรรดาข้อความใน flash มันถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบรูปหมดครับ (Google มองเป็นรูป) ดังนั้นใครที่มีเว็บของตัวเองที่ใช้แฟลชทำซะส่วนใหญ่ ก็ต้องลองคิดดูให้ดีว่า จะปรับเปลี่ยนหรือเปล่า ^^
[thetext] Off Page SEO[/thetext]
หลังจากที่ก่อนหน้าเราดูที่ตัวเว็บเราเองเป็นหลัก ทีนี้สิ่งสำคัญที่ทำให้เว็บของเราติดอันดับดีๆก็คือ “ปัจจัยภายนอกที่เชื่อมโยงมายังเว็บของเรา” ครับ ยกตัวอย่างเช่น มีลิงค์จากเว็บอื่นส่งตรงมายังเว็บเรา มีบล็อกพูดถึงเว็บเรา เป็นต้น Google จะเอามาพิจารณาครับว่า เออเว็บนี้แม่งมีคุณภาพขนาดไหน มีคนกล่าวถึงมากน้อยเพียงไร คนนิยมชมชอบกันเท่าไหร่ ยิ่งเว็บที่พูดถึงเราเป็นเว็บดังๆด้วย ยิ่งดีครับ ดังนั้นยิ่งจำนวนลิงค์ที่ส่งมายังเว็บของเรา และคุณภาพของเว็บที่กล่าวถึงเว็บเรา ยิ่งเยอะเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่าไหร่ ก็จะช่วยส่งเสริมให้เว็บของเราติดอันดับผลการค้นหาได้ง่ายขึ้นด้วยครับ
[thetext]Technical SEO[/thetext]
ตัวนี้จะเป็นเอฟรี่ติงจิงกะเบลที่อยู่ “เบื้องหลัง” ครับ เบื้องหลังตรงที่ว่า มันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณ “มองไม่เห็น“ในหน้าเว็บไซต์ ซึ่งได้แก่พวก source code ในหน้านั้นๆ javascript สถานะของ HTTP เอาง่ายๆ มันก็คือพวกโค้ดต่างๆนั่นแหล่ะครับ เว็บที่เขียนโค้ดเป็นระเบียบ มี site map แน่นอน ปรับแต่งโค้ดให้เข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย ก็ส่งผลต่อการค้นหาด้วยเช่นเดียวกันครับ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม HTML5 จึงสร้างแท็กขึ้นมาเพื่อให้อ่านเข้าใจง่าย ก็เพราะเค้าอยากให้มันดีกับการทำ SEO ด้วยนี่แหล่ะครับ
[thetext]Local SEO[/thetext]
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับลูกค้าหรือคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราครับ ก่อนอื่นผมขอตัวอย่างให้เห็นภาพกันก่อน สมมติว่ามีคนค้นหา “ร้านอาหารไทย” ใน New York Google ก็จะลิสต์รายการค้นหาที่เกี่ยวกับร้านขายกบในพื้นที่นั้นๆ พร้อมกับมีแผนที่กำกับว่าร้านที่ว่าอยุ่ตรงไหน และพื้นที่ใกล้ๆก็มีร้านอาหารไทยอะไรบ้าง นี่แหละครับคือการปรับแต่ง Local SEO ลองดูภาพประกอบนะครับ
ผลการค้นหาด้านบนเป็นตัวอย่างของการค้นหาแบบ Local Search ครับ หน้าที่ของเราก็คือเราต้องพยายามทำให้ Google รู้จักเราให้ได้ว่าเรามีตัวตนอยู่ตรงจุดไหนในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปักหมุด หรือระบุพิกัดร้านตัวเอง การใส่เนื้อหาที่อยู่ที่ชัดเจน และอีกประเด็นที่สำคัญก็คือ “ความคิดเห็นของคนอื่นที่มีต่อกิจการของคุณ” ครับ เพราะว่าผลการค้นหาเหล่านี้มันจะแสดง Review ของลูกค้าประกอบด้วยครับ (ลองค้นหา keyword ตามตัวอย่าง แล้วเอาเมาส์ชี้แต่ละตัวดูสิครับ) นี่แหล่ะครับ ถ้าหากว่าร้านของเราได้รับรีวิวแย่ๆ ต่อให้ติดอันดับดีๆในเว็บไซต์ แต่ก็ไม่น่าจะมีใครอยากจะเสียเวลาเข้าไปดูชมหรอกครับ แฮะๆ
อย่างที่ผมบอกครับว่า จริงๆแล้วหลักการปรับแต่ง SEO มันมีเยอะมาก แต่วันนี้ผมว่าเราทราบหลักการสำคัญสี่ตัวนี้ไปก่อน แล้วพยายามปรับแต่งมันให้ดีขึ้นกว่าเดิม ก็จะช่วยให้ผลการค้นหาเว็บไซต์ของเราดีขึ้นได้แล้วแหล่ะครับ