สวัสดีครับผม วันนี้ผมขอเขียนเล่าเรื่อง แบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซต์มาให้เพื่อนๆได้ลองอ่านกันนะครับ ซึ่งเรื่องที่ผมจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ ข้อควรรู้ที่เราควรจะรู้ก่อนที่จะออกแบบเว็บไซต์ครับผม
ปฏิเสธกันได้ยากนะครับว่าทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ในอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น ยิ่งตั้งแต่มีเจ้าพวกเว็บตระกูล social media โผล่ขึ้นมามากมาย ก็ทำเอาคนหมกหมุ่น ใช้เวลาในเว็บมากขึ้นเลยละครับ นอกจากนี้เดี๋ยวนี้เว็บไซต์ยังสำคัญมากๆ เพราะคนส่วนใหญ่ต่างก็พากันหาข้อมูลจากเว็บกันก่อน ดังนั้นหลังๆมานี้เกือบทุกองค์กรต่างก็ต้องพากันมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองให้ได้ครับ
ในฐานะที่ผมเองก็เป็นนักออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ ผมก็มีประสบการณ์มาเกี่ยวกับกระบวนการทำเว็บ ตั้งแต่ดีลงาน ออกแบบ เขียนโค้ด และนำเสนอเพื่อจบงาน แต่ละขั้นตอนก็มีเทคนิควิธีที่ต่างกันออกไป ในบทความนี้จะเป็นการแบ่งปันเกี่ยวกับขั้นตอน “ก่อน” การออกแบบเว็บไซต์ครับ
[thetext]เริ่มหาข้อมูล[/thetext]
[skill2]ต้องยอมรับครับว่า เราเองไม่สามารถที่จะรู้ได้ในทุกๆเรื่องเกี่ยวกับการออกแบบเว็บ ดังนั้นขั้นตอนแรกๆก่อนที่จะทำเว็บไซต์ เราควรจะเริ่มจากการศึกษาข้อมูลว่าสิ่งที่เราต้องการจะทำคืออะไร และอะไรคือสิ่งที่เราต้องการสื่อออกไป โดยส่วนตัวแล้วผมจะเริ่มจากการลองดูระบบเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับงานของลูกค้า เพื่อดูว่าเว็บไซต์ในประเภทเดียวกัน เค้านำเสนออะไรบ้าง อย่างไร และนำมาต่อยอดกับงานของเราครับ[/skill2]
[thetext]เข้าใจงานที่จะทำ[/thetext]
[skill3]มีหลายคนครับที่เริ่มออกแบบงาน โดยที่ยัง “ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเค้ากำลังออกแบบให้ใครและเพื่ออะไร” ก่อนที่เราจะออกแบบ ให้เราใช้เวลาในการวิเคราะห์ดูครับว่า เอ เว็บที่เราจะทำเนี่ย เราทำให้ “กลุ่มเป้าหมาย” ใด ใครที่เป็นคนที่จะเข้ามาในเว็บไซต์ที่เราจะออกแบบ เพราะถ้าคิดแบบนี้แล้ว เราจะได้นำเสนอได้ถูกต้องและเหมาะสม อย่าลืมนะครับว่า การออกแบบจริงๆเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือที่เค้าพูดว่า Design is a fixing and delighting people นั่นแหล่ะครับ ดังนั้นก่อนที่จะออกแบบสักงานงานนึง ก็ลองทำความเข้าใจกับงานที่เรากำลังจะทำอยู่นะครับ[/skill3]
[thetext]Less is More[/thetext]
[skill4]เราคงจะเคยได้ยินคำนี้มาบ้างนะครับ คำว่า Less is More ก็คือการพยายามนำเสนอให้ตรงจุดที่สุด อะไรที่ไม่ได้เกี่ยวข้องก็ให้เอาออกไป ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เราสร้าง impact ได้มากกว่า ยกตัวอย่างเช่น เว็บราชการ เราไม่จำเป็นต้องเอาไอคอนกระพริบๆ แสดงทุกบรรทัด หรือเอานาฬิกาอะนาล็อคมาแปะทั่วทั้งเว็บ (ในกรณีที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน) แต่ให้เรานำเสนอเฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้เว็บต้องการรู้จริงๆครับ อย่าลืมนะครับว่า คนที่เปิดเว็บมาใช้งาน เค้าต้องการหาสิ่งที่เค้าต้องการให้ได้ แบบ “เร็วที่สุด” โดยเฉลี่ยแล้ว เค้าจะแสกนหาภายใน 3-8 วินาทีครับ ดังนั้นถ้าเราต้องการจะออกแบบเว็บให้ได้ประสิทธิภาพ ก็นี่แหล่ะครับ ทำให้มัน Less แล้วมันจะได้ผลแบบ More นั่นเอง[/skill4]
[thetext]การทำอะไรง่ายๆ มันยากอยู่นะครับ[/thetext]
[skill]การจะออกแบบให้มัน Simple เอาเข้าจริงมันไม่ได้ง่ายสักเท่าไหร่ครับ อย่างที่ผมพูดไปตอนต้น เราจำเป็นต้องเข้าใจองค์กร เข้าใจงานที่กำลังทำ และพยายามเข้าใจแม้กระทั่งคนที่จะเข้ามาดูเว็บที่เรากำลังออกแบบด้วยครับว่า เค้าต้องการอะไร การจะทำเว็บให้มันง่าย เราต้องพยายามคัดกรองเอาว่า อะไรบ้างที่สำคัญ อะไรบ้างที่ไม่จำเป็น และในแต่ละหน้า ควรจะแสดงอะไรบ้าง ถ้าพูดกันด้วยความสัตย์จริง ผมยอมรับว่ามันยากเอาการครับ โดยส่วนตัวแล้วผมจะทำลำดับความสำคัญว่าอะไรที่สำคัญมากที่สุดของเว็บ แล้วไล่ๆลงมาครับ จากนั้นก็ใช้วิธีการตัดทอน เพื่อให้เหลือเฉพาะสิ่งที่สำคัญจริงๆเท่านั้น[/skill]
[thetext]Typography สำคัญมาก[/thetext]
[skill2]ในเว็บทั่วๆไปแล้ว ส่วนใหญ่ของเว็บก็จะหนีไม่พ้น “ตัวหนังสือ” ครับ เพราะเว็บโดยหลักแล้วมันมีไว้เพื่อนำเสนอข้อมูล และข้อมูลที่ง่ายที่สุดก็คือ ตัวอักษรที่เราพิมพ์ไปนี่แหล่ะครับ ผมว่า 95% ของเว็บเลยแหล่ะครับที่เป็นตัวหนังสือ ดังนั้นเราจะเห็นว่า Typography มีบทความสำคัญในการออกแบบเว็บ เราต้องพิจารณาดูว่าเราจะใช้ Font ลักษณะใด รูปแบบของตัวอักษร ขนาดของตัวอักษร ช่องไฟ ช่องว่างระหว่างบรรทัด …แฮะๆ และอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับ Typography ครับ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ท้าทายความสามารถนักออกแบบอย่างเราๆเลยหล่ะครับ[/skill2]
[thetext]เลือกชุดสีให้เหมาะสม[/thetext]
[skill3]การเลือกชุดสีก็เป็นอะไรที่ท้าทายไม่แพ้กันครับ ยิ่งคนที่เพิ่งจะมาหัดออกแบบเว็บไซต์ใหม่ๆ มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆที่จะได้ชุดสีที่เหมาะสมสักชุด มีวิธีการเลือกชุดสีสำหรับเว็บไซต์หลากหลายวิธีนะครับ บางทีก็เอาจาก logo หรือจากรูปภาพหลัก หรือจากเว็บไซต์เช่นพวก Kuler หรือ Color Lover ก็ได้ครับ การเลือกชุดสีที่เหมาะสมจะทำให้งานเราโดดเด่นและดูน่าใช้ครับ[/skill3]
[thetext]อย่าหยุดเรียนรู้[/thetext]
[skill4]อย่างที่ผมพูดในตอนแรกๆว่าเราไม่สามารถจะเรียนรู้ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เราก็จำเป็นต้องอัพเดทความรู้ใหม่ๆของเราครับ เพราะว่านี่คือ “อาชีพ” ของเรา นี่คือ “งานของเรา” ยิ่งเทคโนโลยีเกี่ยวกับเว็บไซต์ มันไปเร็วมากครับ การที่เราหยุดเรียนรู้เพียงหนึ่งปีก็สามารถทำให้เราตกยุคไปได้เลย เอาง่ายๆนะครับ เมื่อปีที่แล้ว เว็บส่วนใหญ่ยังเป็นสำหรับหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ปีนี้เว็บมาเป็น responsive กันถ้วนหน้า เห็นไหมครับว่า เพียงระยะเวลาสั้นๆ กระบวนการทำงานก็มีอะไรท้าทายเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ แม้ว่าเราจะไม่สามารถรู้ในทุกสิ่ง แต่ก็จงเรียนรู้ให้ได้เยอะที่สุดที่เราสามารถจะทำได้ครับ[/skill4]
[thetext]ทำงานทุกชิ้นให้เป็น Master piece[/thetext]
[skill2]เวลาทำงานออกแบบ ผมจะพยายามคิดอยู่เสมอว่า งานนี้ต้องทำให้ดีที่สุด ประหนึ่งว่าเป็นงานระดับ Master Piece ของเรา เพราะผลงานที่เราทำมันจะออกไปสู่สาธารชนครับ แม้งานบางงานจะไม่ใช่งานที่ได้รายได้เยอะ แต่มันก็ภูมิใจที่เราได้ทำ และสามารถเอามาอ้างอิงได้เวลานำเสนอผลงานของเรากับลูกค้ารายใหม่ นั่นเอง ดังนั้นขอให้เราทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ครับ[/skill2]
สำหรับเรื่องราวในบทความนี้ผมก็ขอนำเสนอเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ หากว่าเพื่อนๆมีข้อแนะนำเพิ่มเติม ก็สามารถที่จะคอมเมนท์บอกกันได้นะครับ ผมยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ๆครับผม ^^ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
