สวัสดีวันใหม่ครับ วันนี้อากาศที่กรุงเทพฯ หนาวมากๆ ผมอยู่ กทม มาได้แปดปีแล้ว มีไม่กี่ปีครับ ที่จะพบกับอากาศหนาว หลังๆมานี้แทบจะนับความหนาวเป็นชั่วโมงกันเลยทีเดียว แต่ปีนี้มาแปลก หนาวได้สองวันแล้ว ผมก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ฤดูมันถูกต้องตามฤดูกาลแบบนี้ตลอดไปด้วยเถิด
และพอใกล้จะสิ้นปีแล้ว ตัวผมเองก็กลับมานั่งดูว่าในปีที่ผ่านมา ผมได้ทำอะไรมาบ้าง ก็ปรากฎว่า โอ้โหแฮะ ปีนี้ได้ทำอะไรมากมายจริงๆ เป็นอีกปีที่ชีวิตผมแฮปปี้มากๆ ถ้าใครที่ติดตามในแฟนเพจของผมก็น่าจะรู้ว่าปีนี้ผมได้เดินทางไปเที่ยวเกือบครบทุกประเทศในอาเชียนกันเลยทีเดียว และนี่คือรายการเด่นๆที่ผมได้ทำในปีนี้ครับ
[skill2]
- ออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ที่บาหลี อินโดนีเซีย
- เดินทางสู่เมืองอารยธรรมโลก บุโรพุทโธ หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
- ปีนภูเขาไฟเลื่องชื่อระดับโลก ที่โบรโม่
- เที่ยวแบบชิลๆ ตามรอยหนัง Avatar ที่เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
- สัมผัสดินแดนแห่งพุทธศรัทธา เมืองมัณฑะเลย์ อังวะ สกาย พุกาม ย่างกุ้ง ในประเทศพม่า
- กิน ดื่ม เที่ยว แบบชิลๆ ที่ประเทศสิงคโปร์
- ทริปสั้นๆวันว่างๆ ที่กัวลาลัมเปอร์
- กินขนม ชมดาว เคล้าเสียงคลื่น ที่ Star River เมืองยอกยาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย
- หนีร้อนไปอ้อนทะเล ฮาเฮที่เมืองกระบี่
- เป็นอาจารย์พิเศษ สอนวิธีการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ ที่เมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว
- เป็นวิทยากรรับเชิญ บรรยายในชั่วโมง International Seminar ที่บาหลี
- เป็นวิทยากรบรรยายวิธีการทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- เป็นวิทยากรรับเชิญบรรยายเรื่องราวสายอาชีพเว็บดีไซน์เนอร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- เป็นวิทยากรรับเชิญบรรยายเรื่องราวชาวฟรีแลนซ์นักพัฒนาเว็บไซต์ โรงเรียนจุฬาภรณ์เพชรบุรี
- เป็นอาจารย์สอนให้กับผู้ที่สนใจหลักสูตรพัฒนาเว็บด้วย WordPress แบบตัวต่อตัว
- เป็นเทรนเนอร์สอนน้องที่สนใจมาฝึกงานด้วย
- ได้ทำโปรเจ็คเว็บไซต์ให้ทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน
[/skill2]
อันนี้คัดมาเฉพาะที่เด่นๆของปีนี้นะครับ ในระหว่างปีก็มีกิจกรรมเล็กๆที่ได้ทำด้วย อาทิเช่น เป็นอาสาสมัครกิจกรรมเลี้ยงข้าวน้องๆเด็กกำพร้า เป็นต้น
ที่พูดถึงเหตุการณ์ที่ผมได้ทำมาในช่วงปีนี้ เพราะมีคนบอกว่า ชีวิตผมดูน่าสนุก Lifestyle เป็นชีวิตที่เรียกว่าสำเร็จไปอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งผมเองก็คิดว่าชีวิตในวันนี้ผมก็ถือว่าสำเร็จขึ้นมาอีกก้าวนะครับ แม้จะเป็นก้าวเล็กๆ แต่ก็เป็นก้าวที่ผมภูมิใจมาก เพราะว่าผมสร้างมันมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง โดยมีคุณพ่อคุณแม่ และคนรอบข้างที่คอยให้กำลังใจ
แต่กว่าที่จะมาถึงตรงจุดนี้ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะครับ
ผมเองไม่เชื่อเรื่องความสำเร็จชั่วข้ามคืนครับ หลายๆคนฝันอยากจะทำอะไรก็ให้สำเร็จไปในพริบตา ผมว่ามันยากครับ หลายๆกิจการกว่าที่เค้าจะมีทุกวันนี้ได้ ผมเชื่อว่าเค้าต้องต่อสู้ อดทน ฝ่าฝันอะไรมามากมายหลายอย่าง ชีวิตระหว่างทางอาจจะต้องล้มลุกคลุกคลาน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเค้าจะมีเหมือนๆกัน นั่นก็คือ “การอดทน” ครับ อดทนต่ออุปสรรค อดทนต่อแรงกดดันต่างๆ ซึ่งแต่ละคนก็เจอแตกต่างกัน
อย่างผมเอง ในช่วงแรกๆ ก็ล้มลุกคลุกคลานไม่ต่างกันครับ เราเองก็เป็นเพียงเด็กจบใหม่ จะทำอย่างไรให้คนรู้จัก และรู้จักแล้ว ทำอย่างไรให้เค้าสนใจให้เราไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานของเค้า ผมก็ใช้เวลาในการพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ ว่างเมื่อไหร่ก็พยายามสร้างงานขึ้นมาอีก ทำเยอะมากครับ แม้จะไม่ใช่งานที่ทำแล้วได้ตังค์ ผมก็ทำ เพราะผมสนุกกับมัน และมองว่ามันคือวิธีพัฒนาทักษะของเราได้ดีขึ้น
จากนั้น ผมก็นำผลงานผมไปนำเสนอในเว็บไซต์ดังๆครับ ทั้งในและต่างประเทศ ตรงจุดนี้ทำให้ผมเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะผลงานผมได้รับเลือกให้เป็นผลงานดีเด่น (แน่นอนว่ากว่าจะมีผลงานดีเด่นสักตัว หลายๆตัวที่ผมส่งก็มีไม่ได้ด้วยครับ)
และหนึ่งในนั้นคือผมเรียนรู้วิธีการ Give and Take ครับ คือโดยปกติผมก็เป็นคนชอบแชร์เรื่องราวต่างๆอยู่แล้ว ผมเป็นคนชอบอ่าน ชอบฟัง แล้วก็ชอบพูด ชอบเขียน ครับ เจออะไรมา ก็เล่าให้คนโน่นคนนี้ฟัง ทีนี้ผมก็อยากจะแบ่งปันเรื่องที่ผมรู้ผ่านการเขียนผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว และแน่นอนครับ นั่นก็คือบทความทั้งหลายที่อยู่ในเว็บของผมนี่แหล่ะครับ ที่เป็นอีกส่วนที่ช่วยทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้ เพราะเค้าเข้ามาอ่านบทความของเรา แล้วชอบสไลต์การเขียน การเล่าเรื่อง ทำให้ผมได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรหลายๆที่ครับ (ต้องขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจมา ณ โอกาสนี้นะครับ)
อุปสรรคในช่วงที่ผ่านมา มีเยอะครับ หนักบ้างเบาบ้าง แล้วแต่ช่วงเวลา ก่อนหน้านี้ผมเคยท้อครับ มีอยู่ช่วงแรกๆ ที่มีปัญหาเรื่อง Money Flow มากครับ ผมเป็นลูกชายคนโต มีหน้าที่ต้องคอยสนับสนุนเรื่องเงินทองให้ครอบครัวด้วย ช่วงนั้นสารภาพว่าช็อตมาก ท้อมากว่าเราเดินทางมาถูกทางแล้วหรือเปล่าวะ หรือว่าจะไปทำงานประจำดี แต่ตอนนั้นก็คิดอยู่เสมอว่า ถ้าเราผ่านไปได้ เราจะได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นอีก ทำให้เราเติบโตขึ้นอีก สู้ไปอีกนิดละกัน และผมก็สู้ๆเรื่อยมา และใช่แล้วครับ มันทำให้เราได้เรียนรู้วิธีการบริหารดีขึ้น และก็ไม่มีปัญหาพวกนี้อีกต่อไป
ก่อนหน้าที่ผมจะมาทำเป็นฟรีแลนซ์ฉายเดี่ยวเต็มตัว ผมก็เคยมีทีมนะครับ ตอนนั้นเราสนุกกันมาก เพียงแต่พวกเราเองอาจยังไม่ประสีประสาเรื่องธุรกิจมากนัก ทำให้ช่วงนั้นก็เป็นอีกช่วงที่ต้องล้มลุกคลุกคลาน แต่มันสอนอะไรผมเยอะมากครับ สอนการรู้จักอดทน สอนเรื่องความกล้านำเสนองานของเรา แม้ตอนนี้พวกเราจะไมได้ทำงานร่วมกัน แต่พวกเราก็แฮปปี้กันมาก เพราะพอแต่ละคนออกมาฉายเดี่ยว ปรากฎว่าทุกคนเติบโตในสายงานกันมากแบบก้าวกระโดดครับ ฮ่าๆ เพราะแต่ละคนเหมือนมีอิสระในตัวเองเต็มที่ ทุกวันนี้เราก็มักจะนัดทานข้าวด้วยกัน นั่งเล่าความหลังกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตที่มีรสชาติมากๆ
ในวันนี้มีหลายคนมาขอคำปรึกษาครับ บอกว่าท้อในสายงาน มองไม่เห็นอนาคต ผมเข้าใจจังหวะชีวิตแบบนี้ดีครับ ผมเองก็มีคำแนะนำจากอาจารย์คิมรันโดครับ ท่านบอกไว้ว่า “ความทุกข์คือพลังของฉัน” ครับ
[skill]ถ้าตอนนี้คุณคิดว่ากำลังเผชิญกับทุกข์ที่ยิ่งใหญ่อยู่ จงจำไว้ว่าแม้ความทุกข์จะหนักหนาสาหัสแค่ไหน แต่ในทางตรงกันข้าม มันก็คือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่จะช่วยผลักดันคุณ[/skill]
ผมเองก็ไม่สามารถตอบได้ครับว่า สิ่งที่คุณทำอยู่มันมาถูกทางแล้วหรือเปล่า สิ่งที่คุณทำอยู่มันคือสิ่งที่ใช่สำหรับตัวคุณหรือเปล่า แต่ทุกครั้งที่ผมเจอแบบนี้ ผมจะมองไปข้างหน้าครับ มองว่าถ้าหากว่าเราผ่านอุปสรรคตัวนี้ไปได้ ชีวิตผมในตอนนั้นจะเป็นอย่างไร ผมเองค่อนข้างโชคดี ที่รู้ตัวว่าชอบอะไร และอยากทำอะไร เลยได้ทำในสิ่งที่รัก คุณเองก็ลองพิจารณาดูนะครับ ว่าสิ่งที่ทำอยู่ ณ ตอนนี้มันคือสิ่งที่ใช่ หรือเปล่า หากคิดว่านี่แหล่ะคือสิ่งที่เราทำแล้วมันใช่แน่ๆ แต่ตอนนี้อาจจะติดอุปสรรคอยู่ ก็ขอให้ต่อสู้ต่อไปครับ ปัญหามีทางออกเสมอ เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลา แต่ถ้าคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว พบว่ามันไม่ใช่ ก็ไม่เสียหายที่เราจะถอยออกไปทำในสิ่งที่ใช่มากกว่าครับ
การเปลี่ยนรูปแบบงาน ผมไม่มองว่ามันคือความล้มเหลวนะครับ ผมว่ามันคือความกล้ามากกว่า กล้าที่ทำในสิ่งอื่น กล้าที่จะลองเริ่มต้นใหม่ ชีวิตเราก็มีหลากหลายสีสันแบบนี้แหล่ะครับ แม้ในวันนี้เราอาจจะไม่ได้ดีพร้อมเท่ากับคนอื่น แต่ถ้าเราทำให้เต็มที่ ขยันมากขึ้น ตั้งใจมากขึ้น ต้องมีสักวันแหล่ะครับ ที่วันนั้นดอกไม้ของเราก็จะบานสวยงามไม่แพ้ของคนอื่นๆเช่นเดียวกัน :)
