สวัสดีวันใหม่ครับ เมื่อวานนี้ผมมีโอกาสได้มีโอกาสพบปะ พูดคุย กับคนในวงการหลากหลายอาชีพ ทั้งเพื่อนๆที่เป็นฟรีแลนซื และเพื่อนๆพี่น้องที่ทำงานประจำในองค์กรที่เป็นแบรนด์ระดับโลก ทำให้ผมได้มีโอกาสเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ซึ่งผมเองนั้นเป็น “ฟรีแลนซ์” ที่ไม่เคยผ่านการทำงานประจำแบบเต็มเวลามาก่อน ผมจึงขาดประสบการณ์ที่คนทำงานประจำได้ แต่การได้พูดคุย เจอคนเยอะๆ หลากหลายอาชีพ มันก็ทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์มากขึ้นครับ
วันนี้ผมเลยอยากจะเอาเรื่องราวที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องของการ “ทำงานให้เป็นมืออาชีพ” มากขึ้นครับ โดยอาศัยทั้งที่เคยทำมาและจากที่เห็นคนรู้จักที่ทำในแบรนด์ดังๆ ตำแหน่งสูงๆ ทำด้วย นั่นก็คือเรื่องของ Daily Planner หรือ การทำแผนประจำวัน นั่นเองครับ
จริงๆแล้ว Daily Planner มันก็คือการทำ To do list อย่างหนึ่งครับ ปกติผมก็ทำ To Do list ในแต่ละวันอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อวานนี้ผมได้เห็น Daily Planner ของเพื่อนที่ทำในบริษัทหนึ่งมันเจ๋งมาก นั่งอ่านแล้วก็รู้สึกชอบครับ มาดูกันว่ามันเจ๋งอย่างไร
ด้วยความที่เพื่อนคนนี้กำลังเตรียมตัวเพื่อก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้จัดการสาขาของร้าน (ถ้าบอกชื่อแบรนด์ทุกคนต้องรู้จักแน่ๆ ฮ่าๆ แต่เอาเป็นว่าเป็นแบรนด์ดังมาก ระดับโลกเลยแหละครับ) Daily Planner ขององค์กรนี้ก็จะเป็นแบบนี้ครับ
[thetext]สร้างแรงจูงใจให้คนในทีม/ร้าน ได้อย่างไร[/thetext]
ภารกิจแรกก่อนจะเปิดร้านขายสินค้า ทุกคนในร้านจะต้องมาเจอหน้ากันเพื่อ motivate กันและกัน ในฐานะหัวหน้า เขาก็ทำการลิสต์รายการที่จะพูดเพื่อจะให้พนักงานทุกคนได้มีแรงจูงใจในการทำงาน เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย
[thetext]ลิสต์เป้าหมายของการทำงานในวันนี้[/thetext]
แพลนเนอร์นี้จะเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำ เช่น ยอดที่ตั้งไว้วันนี้ต้องขายได้เท่าไหร่ คาดหวังลูกค้ากี่คน หรือในแบบที่ผมทำก็อย่างเช่น ต้องออกแบบเว็บไซต์ A ทำกราฟิก slider ตรง Header, เขียนบล็อกเกี่ยวกับการทำ Daily Planner, ประชุมงานกับลูกค้า B เป็นต้น
[thetext]สิ่งที่ได้เรียนรู้วันนี้[/thetext]
ตัวนี้เป็นตัวที่น่าสนใจมากๆ เพราะมันคือบันทึกที่ช่วยให้เรารู้ว่าวันนี้เราทำงานแล้วได้รู้อะไรใหม่ๆบ้าง เช่น ระหว่างเขียนโค้ดเจอบั๊กแบบนี้ แล้วเราแก้ไขอย่างไร
[thetext]สรุปการทำงานในแต่ละวัน[/thetext]
เมื่อหมดวัน เราก็จะมานั่งสรุปครับว่าวันนี้ทำตามเป้าหมายเสร็จไปกี่ข้อ ขายสินค้าได้กี่ตัว มีลูกค้ากี่คน ส่วนนี้จะช่วยให้เราได้เห็นภาพรวมทั้งหมดของการทำงานอีกครั้งครับ ว่าวันนี้เราทำอะไรไปบ้าง และมันมีประสิทธิภาพดีแค่ไหน
[skill2]และนี่แหล่ะครับคือตัวอย่าง Daily Planner ที่ผมอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งจริงๆแล้วเราก็เอามาประยุกต์ ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละสาขาวิชาชีพครับ ว่าอยากจะเพิ่มตรงไหน ลดตรงไหนก็ว่ากัน[/skill2]
การทำ Daily Planner มันช่วยให้เราทำงานได้มีเป้าหมายมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นจริงๆครับ เราจะรู้ได้เลยว่าในแต่ละวันเราต้องทำอะไร ใช้ชีวิตไปในทิศทางไหน ข้อดีมีเยอะมากครับ ยกตัวอย่างเช่น
[thetext]1. บริหารเวลาได้ดีขึ้น[/thetext]
แน่นอนครับว่า เมื่อเรารู้ว่าในแต่ละวัน เรามีภารกิจกี่อย่างที่ต้องทำให้เสร็จ เราก็จะวางแผนชีวิต วางแผนการใช้เวลาให้ดีขึ้นได้ มันจะช่วยให้เราโฟกัสได้ตรงจุดมากขึ้นว่า เราจะใช้เวลาไปกับแต่ละภารกิจมากน้อยแค่ไหน
[thetext]2. รู้จักจัดลำดับความสำคัญของงาน[/thetext]
ในบางวัน งานที่ต้องทำไม่ใช่มีเพียงแค่อย่างเดียว แต่การรู้จักทำ Daily Planner จะช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้น ว่างานอะไรควรทำก่อนหลัง
[thetext]3. ไม่ลืม[/thetext]
ถ้าหากว่าเราไม่ได้ทำบันทึกไว้ หากยุ่งมากๆ เราอาจจะลืมครับว่า วันนี้เราต้องทำอะไรบ้าง แต่การทำ Daily Planner มันคือการบันทึกแล้วว่าอะไรบ้างที่เราต้องทำ ดังนั้นเราก็สามารถเช็คดูได้ว่าทำครบไปหรือยัง
[thetext]4. ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น[/thetext]
การทำ Daily Planner เป็นวิธีฝึกกระบวนการคิด กระบวนการทำงาน และนำไปสู่การรู้จักทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น แน่นอนครับว่าเมื่อเราทำแผนในแต่ละวันมันก็ทำให้เรารู้ว่าเรามีอะไรที่จะต้องทำ ถ้าทำเสร็จงานก็บรรลุเป้าหมาย ถ้าหากไม่มี Plan มันจะทำให้เราหลุดโฟกัสครับว่า อะไรบ้างที่ควรทำ อะไรบ้างที่ต้องเสร็จ
[thetext]5. มีบันทึกเป็นหลักฐาน[/thetext]
ข้อนี้เป็นอีกข้อที่ดีมากๆครับสำหรับประโยชน์ของ Daily Planner ยกตัวอย่างเช่น บางทีผมก็เจอลูกค้าโทรมาหา แล้วก็ดีลงานกัน แล้วอยู่ๆลูกค้ารายนั้นก็หายเงียบไปนาน พอลูกค้าติดต่อกลับมาอีกที ผมก็สามารถดูบันทึกย้อนหลังได้ว่าผมเคยดีลกับลูกค้าท่านนี้มาแล้ว เคยคุยกันเรื่องอะไร เมื่อวันที่เท่าไหร่ ช่วยประหยัดเวลาการนั่งจูนกันใหม่อีกเยอะครับ ฮ่าๆ
มาลองทำ daily planner เพื่อให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นมืออาชีพมากขึ้นกันเถอะครับ