เว็บดีไซน์เนอร์ก็คือคนที่ออกแบบหน้าตาเว็บไซต์นั่นแหล่ะครับ หน้าที่หลักๆของอาชีพนี้ก็คือการออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงาม น่าติดตามและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน (user friendly) สำหรับเว็บไซต์นั้นผมว่ามันเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะ ความคิดสร้างสรรค และเทคนิคทางคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน การจะทำให้ได้เว็บไซต์ “ดีๆ” สักเว็บ จึงต้องมีอะไรที่มากมายหลายขั้นตอนครับ
ในฐานะคนออกแบบเว็บไซต์ วันนี้ผมนำเทคนิคเล็กๆน้อยๆมาเล่าสู่กันฟังนะครับ เป็นเืรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เราๆนักออกแบบควรจะมี หรือควรทราบไว้ครับผม
1. ต้องมีพอร์ตผลงานที่เด่นชัด
ฟังดูแล้วเหมือนคำพูดที่ใครๆก็ต้องรู้ใช่ไหมละครับ แต่ว่าผมได้เห็นนักออกแบบหลายๆคน หรือแม้แต่บรรดา agencies ทั้งหลาย ที่บอกว่า ได้ทำงานให้องค์กร หน่วยงาน ระดับอินเตอร์มาแล้วมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Microsoft, Samsung, Nokia แต่ว่า..ไหนละหลักฐาน ถ้าเกิดเราทำให้เค้าจริง เราก็ต้องมีหลักฐานหรือผลงานมาแสดงด้วย เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าเราได้ทำจริงๆ
บางครั้งเราอาจจะแสดง “แนวคิดการทำงาน” ของเราก็ได้นะครับ ยกตัวอย่างเช่น เราไม่ได้ทำเว็บให้ Pepsi แต่พอเราไปดูเว็บเค้าแล้ว เรารู้สึกว่า มันน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้วจะดีกว่าเดิม เราเรียกว่า showing a concept ซึ่งแบบนี้จะแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ของเรา เป็นการบอกให้รู้ว่าเราสามารถที่จะแก้ปัญหาหรือพัฒนาสิ่งต่างๆได้
2. การติดต่อสื่อสารต้องดี
ผมไม่ได้หมายถึงให้พวกเราต้องพากันรับโทรศัพท์ในวันหยุดราชการ หรือต้องคอยรับโทรศัพท์ในขณะที่กำลังรับประทานอาหารเย็นหรอกนะครับ เมื่อคุณได้ตกลงทำงานกับลูกค้าแล้ว คุณต้องมีวิธีให้พวกเค้าได้ติดต่อกับคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ ทางอีเมลล์ ทาง skype เป็นต้น แต่ว่า… คุณต้องระบุเวลาทำงานของคุณลงไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น คุณโทรหาผมได้ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ผมว่าถ้าเป็นคนจริงๆ คงไม่มีใครจะสามารถรับโทรศัพท์ หรือคอยตอบคำถามได้ 24 ชั่วโมงหรอกครับ
ดังนั้น จงมีกฏระเบียบให้กับตัวคุณเองด้วย และบอกให้ลูกค้ารู้ เค้าจะได้ไม่โทรมาปลุกคุณตอนตีสี่ เพื่อจะบอกว่า “ชั้นคิดว่า สีเขียวนี้มันเขียวเกินไปนะ ลดระดับสีลงมาหน่อยได้ไหม?”
3. ให้คำแนะนำได้
ถ้าคุณคิดว่าสิ่งที่ลูกค้าขอร้องให้คุณทำ มันโอเวอร์เกินไปสำหรับมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น ต้องออกแบบฟอร์มกรอกข้อมูล 100 ฟอร์ม คุณเองก็รู้ว่าไม่มีใครที่ไหนจะบ้ามานั่งกรอกข้อมูลมากมายขนาดนี้หรอก นี่เป็น หน้าที่ ของคุณ ที่ต้องบอกให้ลูกค้าทราบ
การให้ข้อเสนอและคำแนะนำที่ดีแก่ลูกค้า จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลา และประหยัดต้นทุน มากกว่านั้นก็คือมันจะช่วยให้คุณได้รับความไว้วางใจครับ ดังนั้น บอกลูกค้าอยู่เสมอว่าอะไรที่ทำแล้วดี อะไรที่ทำแล้วมันไม่เกิดประโยชน์ ก็นี่เป็นอาชีพของคุณนี่นา คุณควรจะเป็นมือโปรด้านนี่สิ ใช่ไหมละ อิอิ
4. ทำงานชัดเจน
บางทีเราอาจจะออกแบบเว็บไซต์สวยงามตามที่ลูกค้าขอ ลูกค้าชอบมันมาก และคุณก็เริ่มเขียนโค้ดไปแล้ว ต่อมาบางทีลูกค้าอาจจะของเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่ม requirement ตรงนี้บ้าง ตรงนั้นหน่อย คุณเองก็รู้ว่านี่เป็นการเพิ่มงานของคุณ ซึ่งคุณก็ต้องคิดค่าทำงานเพิ่ม ดังนั้นคุณต้องบอกให้ลูกค้าทราบครับผม
มันไม่ผิดครับ สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพราะความผิดพลาดจะทำให้เราเกิดการเรียนรู้ แต่ก็อย่าให้มีผิดพลาดซ้ำสอง เมื่อทำงานแล้ว ต้องมีใบสัญญาทำงาน ค่าบริการการทำว่าคิดอย่างไร และกรณีนอกเหนือจาก requirement จะคิดเพิ่มอย่างไร ต้องมีให้ชัดเจนครับ อย่าพยายามบอกว่าทำได้ในสิ่งที่ทำไม่ได้ หรออย่าตั้งราคาในสิ่งที่คุณไม่รู้ว่ามันทำยากแค่ไหน ไม่งั้นคุณจะน็อคเอาท์ไปเสียก่อน
5. ซับพอร์ต
บางครั้งอาจจะมีข้อผิดพลาดขึ้นมา เช่นลูกค้าอัพเดทผิด เผลอไปแก้ไขตรงนั้นตรงนี้ หรือคุณอาจจะลมลบข้อมูลออกจากโค้ด ุคณควรจะทำตัวให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
แต่ไม่ต้องห่วงครับ คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างฟรี (ยกเว้นแต่ว่ามันเป็นความผิดพลาดของคุณจริงๆ เช่นเขียนไม่ครบตาม requirement) คุณสามารถคิดค่าบริการได้ครับ อันนี้ก็แล้วแต่ว่าคุณจะจัดการอย่างไร ก็คุณเป็นคุณทำมันขึ้นมานี่นา ใช่ไหมละครับ
ผมหวังว่าเทคนิคเล็กๆน้อยๆนี้จะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
