สวัสดีคร้าบ แหม่ว์ หายหน้าหายตาหนีไปหาแฟน ณ แดนมังกร มาครับ “หาแฟน” ในที่นี้คือ “ไปหา” นะครับ เผื่อจะได้กลับมาสักคนสองคน แต่แหม่ว์ ไม่มีใครหลงกลสักคนเลยครับ ฮ่าๆ พอกลับมาที่เมืองไทยปุ๊บ ก็เปิด message ในเฟสบุค เจอข้อความเพียบครับ เพราะว่าตอนอยู่จีนไม่สามารถเปิด facebook ได้
ทีนี้ก็มีคำถามอยู่สองสามคนที่ส่งข้อความมาปรึกษาครับ เกี่ยวกับ Lifestyle ของผมและชีวิตการเป็นฟรีแลนซ์ ผมเองก็มองว่าเป็นคำถามที่ดีมากๆนะครับ จุดประกายให้ผมได้แบ่งปันเรื่องราวในชีวิตของตนเอง และเผื่อจะเป็นอีกคำแนะนำสำหรับคนที่อยากจะมาทำงานเป็นนักทำเว็บอิสระ ฮ่าๆ
ก่อนอื่นนั้น ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่า เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่อ้างอิงจากประสบการณ์ส่วนตัว ฟรีแลนซ์ท่านอื่นๆก็อาจจะมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไปก็ได้นะครับ ถือซะว่ามานั่งอ่านผมเมาท์มอยหอยหลอดปรอทแตกไปละกันครับ ><
ชีวิตฟรีแลนซ์เป็นชีวิตที่ “ไม่โหดจริง อยู่ไม่ได้” อันนี้ผมพูดตามความรู้สึกจริงๆของผมเลยนะครับ น้องๆหลายคนที่กำลังจะจบออกมา หรือกำลังเรียนอยู่ หรือคนทั่วไปอีกหลายคนคิดว่าอาชีพฟรีแลนซ์คืองานที่เอาไว้ทำขำๆ สำหรับมือสมัครเล่นไว้ลองสนาม ในความเป็นจริง ชีวิตฟรีแลนซ์จริงๆไม่ได้ขำเลยนะครับ อย่าลืมว่าพวกเราไม่มีเงินเดือนเหมือนงานประจำ แถมในตลาดก็มีตัวเลือกตั้งเยอะแยะ ไม่ได้มีแค่เราที่ทำเป็นคนเดียวซะที่ไหน
“ผลงานไม่เด่นพอ ผมก็ขอบ้ายบายยยยย” … นี่คือความคิดของลูกค้าครับ ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่างานของคุณเด่นแน่ๆ ให้เด่นพอให้คนสนใจมาจ้างคุณ คุณถึงจะได้รายได้ครับ และการทำงานเด่นๆนี่ก็ไม่ง่ายเลย
ฟรีแลนซ์ทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ครับ แม้ว่าจะดูชีวิตชิลๆ แต่เบื้องหลังความชิล มันก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องแบกรับนะครับ เราต้องวางแผนชีวิต ต้องนั่งทำทุกสิ่งอย่างด้วยตัวเอง
“ในแต่ละวันของการทำงาน คือการได้พิสูจน์ตัวเอง” นี่คือหลักการทำงานของฟรีแลนซ์ที่จะทำอย่างไรให้ได้งานเข้ามาเรื่อยๆ มีเงินไว้ใช้สอยครับ ทำงานแบบเต็มที่ ประหนึ่งว่างานนั้นเป็นงานที่เราทำให้ตัวเอง (จริงๆมันก็ทำให้ตัวเองนั่นแหล่ะครับ ถ้าทำแล้วลูกค้าชอบ ตัวเองก็มีพอร์ตดีๆ มีเงินไว้กินไว้ใช้)
อ่านถึงบรรทัดนี้แล้ว อย่าเพิ่งตกใจ หรือตื่นกลัวกับการเป็นอาชีพฟรีแลนซ์นะครับ ผมไม่ได้เขียนเพื่อให้ตื่นตระหนก แต่แค่มาแชร์ประสบการณ์ให้ได้มองในอีกมุมมองหนึ่งครับ มีน้องๆที่กำลังเรียนอยู่หลายคนเหมือนกัน พูดกับผมว่า “โคตรชอบอาชีพฟรีแลนซ์มากเลย มันดูเจ๋ง คุลดี” พอผมถามไปว่า ทำไมถึงว่ามันเจ๋ง มันคุล ละครับ หลายคนก็อึกอัก ตอบไม่ได้ อืม… อันนี้ก็ไม่ว่ากัน เพราะหลายๆคนก็มีรูปแบบความเจ๋ง ความคุลที่แตกต่างกัน เพราะทุกคนต่างก็มีความคิดของตัวเองอยู่แล้ว ไม่มีผิดไม่ถูกครับ อย่างผม ผมว่ามันเจ๋ง ตรงที่ผมได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ได้เจอคนใหม่ๆ ได้มีชีวิตในอยากจะเป็น ได้ทำงานที่ไหนก็ได้ แล้วก็ได้เที่ยวในยามที่อยากเที่ยว นี่คือนิยามความเจ๋ง ความคุลของผมนั่นเอง
ชีวิตฟรีแลนซ์ แต่นแต่นแต้นได้เสมอ ถ้าบริหารเวลาเป็น
ข้อนี้ผมอุปมานเอาเองนะครับ ฮ่าๆ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมก็ได้มีโอกาสได้ไปแต่นแต่นแต้น เดินทางเปิดหูเปิดตาในที่ที่อยากไป ในวันที่ต้องการได้ ถ้าผมทำงานประจำ ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสได้ไปโน่นไปนี่เหมือนทุกวันนี้หรือเปล่า
[skill]ทีนี้มีอีกคำถามที่น่าสนใจครับ นั่นก็คือ ทุกวันนี้ผมเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างทำเว็บอย่างเดียวหรือ? WordPress มันสามารถสร้างเม็ดเงินให้เราได้พอขนาดจะเลี้ยงดูลูกเมียได้ขนาดนั้นเลยหรือครับ?[/skill]
คำถามนี้จี้จุดเป็นอย่างมาก ฮ่าๆ จี้จุดที่ว่าผมไม่เคยเจอใครถามมาก่อน ส่วนมากก็ถามแค่ว่าทำงานอะไร แต่ไม่ได้ถามลึกถึงขั้นว่ามันสามารถสร้างรายได้ถึงขั้นมีเงินพอเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียหรือเปล่า
จากที่ผ่านมา ผมก็ทำงานเป็นทั้งนักออกแบบเว็บ พัฒนาเว็บ ให้คำปรึกษาเรื่องเว็บ สอนทำเว็บ แล้วก็เดินสายเป็นวิทยากรตามมหาวิทยาลัยบ้างเป็นบางโอกาสครับ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวข้องกับการทำเว็บทั้งนั้นครับ และ 95% ก็ทำเว็บด้วย WordPress ครับ
ผมมองว่าถ้าเราสามารถเอาศักยภาพของ WordPress มาหาเลี้ยงชีพ มันก็สร้างเม็ดเงินให้เราได้มากพอนะครับ ทุกวันนี้ผมต้องขอบคุณทีมผู้พัฒนา WordPress ที่สร้างระบบเจ๋งๆ และง่ายให้ผมได้ใช้ในการทำมาหาเลี้ยงชีพ จริงๆ บุคคลผู้ที่มีรายได้หวือหวาจากการหากินกับ WordPress ก็มีให้เห็นอยู่เยอะนะครับ อย่างพี่พีระพงษ์ คนไทยที่สร้างชื่อระดับโลกด้วยการทำธีม WordPress ขาย ได้รายได้เป็นกอบเป็นกำ
ผมว่าทุกอาชีพต่างก็มีจุดเติบโตของมันเองอยู่ในตัวครับ ไม่ว่าคุณจะสร้างเว็บด้วย WordPress, Joomla! หรือ Drupal หรือแม้กระทั่งจะเขียนขึ้นมาเอง มันก็สามารถสร้างเม็ดเงินให้เราได้มากพอทั้งนั้นแหล่ะครับ อยู่ที่ว่าเราจะมีความสามารถในการเอาศักยภาพที่ตัวเองมีอยู่มาใช้ได้มากน้อยแค่ไหน หลายอย่างเราจำเป็นต้องมีทักษะหลายๆด้านมาประกอบกันเพื่อให้เอื้อต่อการประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นฟรีแลนซ์รับทำเว็บไซต์ คุณก็ควรจะมีทักษะในการทำการตลาดด้วย หากคุณเก่งมากในการเขียนโปรแกรม ออกแบบ แต่ดันขายงานตัวเองไม่เป็น ก็จบครับ แบบนี้ก็สร้างเม็ดเงินยาก ถ้าหากว่าคุณผู้อ่านที่กังวลว่าจะขายงานตัวเองไม่ได้ ลองตอบคำถามต่อไปนี้ดูนะครับ
“ฉันจะทำอย่างไรให้คนรู้จักฉัน”
“ฉันจะทำอย่างไรให้งานของฉันโดดเด่นและมีคนสนใจ”
“ฉันจะทำอย่างไร ให้มีงานมีเงินเข้ามาในชีวิต”
หลักๆในการขายงานตัวเอง ผมก็ยึดหลักสามคำถามนี้ครับ พอมีคำถามแล้ว เราก็จะมีคำตอบให้แต่ละข้อ ซึ่งคำตอบก็ล้วนแตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน แล้วแต่วิธีการของแต่ละคน บางคนใช้วิธีนี้ได้ผล อีกบางคนก็ได้ผลในวิธีอื่น ก็ว่ากันไป
อย่างตัวผมเอง ผมทำให้คนรู้จักด้วยการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมา แล้วก็เขียนบล็อกเล่าเรื่องราวต่างๆ แบ่งปันความรู้ที่ตัวเองมีให้คนที่มาติดตามได้อ่านได้ลองทำตามดู สร้างแฟนเพจไว้แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่ชื่นชอบผลงาน
ผมพยายามเรียนรู้อยู่เสมอครับ ผมเองไม่ได้เรียนจบด้านการออกแบบมาโดยตรง ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่ท้าทายมาก ในการฝึกฝนทักษะการออกแบบ แต่ผมก็เชื่อว่าศิลปินศิลปะ มันเป็นหนึ่งในความสามารถของคนทุกคนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่รู้ว่าอะไรสวยไม่สวย มันฝึกกันได้ครับ แต่ต้องใช้เวลา ผมยอมรับครับว่าผมเริ่มต้นฝึกฝนการออกแบบด้วยการ “ลอกเลียนแบบ” ลอกเลียนนี่หมายถึงการพยายามหัดทำตามให้ได้แบบนั้น แล้วจากนั้นก็นำมา “ประยุกต์ให้เป็นแบบของตน” ครับ เชื่อเถอะครับว่า ไม่มีใครไม่เคยลอกเลียนแบบคนอื่นหรอกครับ เราทุกคนต่างก็มี “ไอดอล” เป็นของตัวเอง แต่เราก็ต้องรู้จัก “สร้างเอกลักษณ์” ของตัวเองขึ้นมาด้วยมันถึงจะเวิร์คนะครับ ไม่งั้นเราก็จะเป็นแค่คนที่เลียนแบบ แต่ไม่ได้เป็นแบบให้คนอื่นสักที
คำถามต่อมา ทำอย่างไรให้มีงานมีเงินเข้ามาในชีวิต ผมมองเห็นโอกาสเยอะแยะเลยครับ ยิ่งสายเว็บนะ มีเยอะมาก ทุกวันนี้มีบริษัท องค์กร หน่วยงาน ร้านค้า บลาๆ อีกเยอะแยะที่ยังไม่มีเว็บไซต์ครับ หรือมีอยู่แล้วแต่เค้าก็ต้องการปรับเปลี่ยน เพราะบางเว็บก็เก่าเกินไป ดังนั้นผมก็ทำหน้าที่ด้วยการ “เสนอบริการครับ” หรือพูดอีกอย่างก็ “ขายบริการ” นั่นแหละ ผมก็ติดต่อไปเลย บอกไปเลยว่า เนี่ยผมรับทำเว็บนะคร้าบ หากวันใดอยากจะจ้าง อยากให้ผมรับใช้ก็บอกได้เลยนะครับ
อีกอย่างที่อยากจะแนะนำ ก็คือ อย่าพึ่งงานเพียงอย่างเดียวครับ ผมอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขียนไว้ดีมากๆ บอกว่า “คนเราไม่ได้เก่งแค่ทางเดียว” ใช่ครับ มนุษย์เราเกิดมาพร้อมกับมันสมองที่อัจฉริยะมาก เราไม่จำเป็นต้องทำงานอย่างเดียวเสมอไปครับ อย่างผม ผมชอบพูด ชอบเมาท์ ชอบสอน ผมก็เลยเลือกที่จะสอนทำเว็บด้วย เดินสายเป็นวิทยากรบ้างอะไรบ้าง แล้วแต่โอกาสจะอำนวย ซึ่งงานพวกนี้แม้จะเป็นงานรอง แต่มันก็มีผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจไม่แพ้กันนะครับ เพื่อนผมบางคนนอกจากจะทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์แล้ว ก็ยังเปิดร้านค้าเล็กๆไว้ขายของด้วย ผมว่ามันเจ๋งดีนะ เผื่อในอนาคต งานนี้ไม่รุ่ง ก็ยังมีอีกงานให้ทำ ฮ่าๆ
ร่ายมาซะยาว ไม่รู้ว่าอ่านแล้วจะเมาข้อความกันหรือเปล่านะครับ แฮะๆ ก็อยากที่กล่าวไปครับว่า อาชีพฟรีแลนซ์ เป็นอาชีพที่ต้องอาศัยทักษะ อาศัยความทุ่มเท หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ถึงจะอยู่รอดได้ในวงการ แม้จะฟังดูยุ่งยาก แต่เชื่อเถอะครับว่า ถ้าเราได้ทำเต็มที่ ทุ่มเทเต็มกำลัง บริหารชีวิตให้ได้สมดุล แค่นี้ชีวิตฟรีแลนซ์ของเรา ก็ลัลล้าได้แล้วละครับ ส่วนใครที่กำลังท้ออยู่ ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้สามารถผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ “ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข” แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า วันนี้สวัสดีคร้าบ