อรุณสวัสดิ์ยามเช้าครับ วันนี้อากาศดีมากก ฟินที่สุด ฟินๆอย่างนี้มาพูดถึงเรื่อง “บล็อกเกอร์” คืออะไรกันดีกว่า หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างกับคำนี้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ถ้าพูดแบบสั้นๆ กระชับ บล็อกเกอร์ ก็คือ “นักเขียนบนโลกออนไลน์” ครับ เขียนอะไรก็ได้ตามใจอยากบนเว็บของตัวเอง แต่บล็อกเกอร์ที่ประสบผลสำเร็จ จะเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ impact ต่อคนอ่าน ก็เหมือนกับนักเขียนหนังสือนั่นแหล่ะครับ ใครๆก็เขียนหนังสือได้ แต่หนังสือที่ขายดี ก็มักจะเป็นนหนังสือที่ทรงอิทธิพลกับนักอ่าน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่การเขียนหนังสือบนโลกจริงๆมันยากกว่าการเป็นบล็อกเกอร์เยอะครับ เพราะไหนจะต้องเรื่องการพิสูจน์อักษร ส่งโรงพิมพ์ บางเรื่องกว่าจะได้ตีพิมพ์เป็นเล่มจริง มันก็ out of trend ไปแล้ว แต่บนโลกออนไลน์ คุณเขียนเสร็จก็เผยแพร่ได้เลย
บล็อกเกอร์นั้นเราทุกคนสามารถเป็นได้ครับ มีหลายๆคนที่ผมเห็นเค้าโพสต์เรื่องราวบนเฟสบุค เป็นเรื่องราวที่มีคุณภาพมาก อย่างเช่น เพื่อนของผมบางคนมีโอกาสได้ไปเที่ยวในสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ไปกัน หรือบางคนได้ทำงานในโซนประเทศแปลกประหลาด เค้าก็มีมุมมองหลายๆอย่างมาเล่าให้เพื่อนๆในเฟสฟัง ซึ่งเรื่องที่พวกเค้าเขียนนี่แหล่ะครับ เป็นเนื้อหาชั้นเยี่ยมสำหรับทำเป็นบล็อกเลย และการเขียนผ่านบล็อกมันมีข้อดีมากกว่าเฟสบุคเยอะครับ
เฟสบุคพอเวลาผ่านไป จะมานั่งหาสิ่งที่เคยพิมพ์ก็ยากเย็นแสนเข็ญ ฟังก์ชั่นค้นหายังไม่เจ๋งเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณมีบล็อกเป็นของตัวเอง คุณคือเจ้าของเว็บครับ ดังนั้นเรื่องค้นหาเรื่องย้อนหลังจึงเป็นอะไรที่จัดการได้ง่ายกว่า หลายคนก็มองว่าในเฟสบุคมันเร็วกว่าพิมพ์ปุ๊บ เพื่อนเห็นปั๊บ ผมก็เห็นด้วยครับ แต่ถ้ามองในแบบระยะยาว ยังไงเฟสบุคก็ยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ อีกอย่าง เฟสบุคมันก็คือเว็บของคนอื่นที่ให้เราไปใช้บริการ อนาคตโลกไอทีมันแปรเปลี่ยนไปเร็วมากครับ ถ้าอยู่ๆ เฟสบุคเกิดปิดตัวขึ้นมา เนื้อหาที่เราเคยเขียนดีๆ มันก็หายไปด้วย ตัวอย่างมีให้เห็นมานับไม่ถ้วนครับ กับเว็บใหญ่ระดับโลกที่พากันปิดตัวไป เช่น เว็บ myspace, hi5, multiply เป็นต้น
แล้วเป็นบล็อกเกอร์ มันดีอย่างไร?
มันดีมากๆเลยแหล่ะครับ จากประสบการณ์การเป็นบล็อกเกอร์ (ผมทำบล็อกตั้งแต่ปี 2008) มันได้อะไรหลายๆอย่างนะครับ สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ได้ฝึกทักษะการเขียน การเล่าเรื่องครับ และเป็นการสร้างโอกาสให้ตัวเอง เปิดตัวตนให้คนอื่นได้รู้จักว่าในโลกใบนี้ ยังมีเราอยู่นะ หลายครั้งที่ผมก็ได้งานมาเนื่องจากมีคนติดตามอ่านบล็อกของผมนั่นเอง
ส่วนบล็อกเกอร์ระดับโลกนั้น เค้าสามารถเอามาเป็นงานหลักได้เลยนะครับ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำก็มีให้เห็นกันอยู่มากมาย ยกตัวอย่างเช่น
คนนี้เป็นบล็อกเกอร์คุณภาพระดับโลกครับ ดังมากๆ เป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนอยากมีบล็อกเป็นของตัวเองกันเลยทีเดียว แต่แรกเริ่มเดิมที คุณฟลินน์ เป็นลูกจ้างนี่แหล่ะครับ แต่พิษเศรษฐกิจในอเมริกา ทำให้เค้าต้องถูกยกเลิกสัญญาจ้าง กลายเป็นคนว่างงาน สมัครงานที่ไหนก็ไม่มีคนรับ ระหว่างนั้นเค้าเลยทำบล็อกขึ้นมา โดยเอาความรู้ที่ตัวเองมี มาเป็นเรื่องราวภายในบล็อกครับ และเชื่อไหมครับว่า นั่นแหล่ะกลายเป็นแหล่งทำเงินชั้นยอดของเค้าเลย เค้ามีบล็อก จากนั้นก็ทำเป็น ebook ออกมาครับ ขายดีถล่มทลาย ตอนนี้เค้าก็เดินสายบล็อกอย่างเต็มตัว บริษัทเก่ามาให้กลับไปทำงาน เค้าก็ไม่ไปแล้วครับ เจองานที่ใช่ ในสิ่งที่ชอบ และตอบโจทย์ขนาดนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา เค้าก็ได้รายได้จากการเป็นบล็อกเกอร์เบาๆครับ $55,000 หรือราวๆ 1,650,000 บาท!! รายได้เดือนละล้านเลยครับ ฮ่าๆๆ
บล็อกเกอร์ท่านนี้เป็นอีกคนที่คุณควรจะรู้จักไว้ครับ เค้าเริ่มต้นจากการเขียนบล็อกเพื่อเป็นงานอดิเรก เค้าก็เขียนเกี่ยวกับโอลิมปิกและความหลงไหลในการถ่ายภาพของตัวเองครับ จากนั้นเค้าก็มาเปิดเว็บ problooger.com เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อต้องการช่วยบล็อกเกอร์คนอื่นๆ ตอนนี้เค้ากลายมาจับงานบล็อกเป็นงานหลักแบบ full-time ไปแล้วครับ แล้วก็สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จากการโฆษณาสินค้า ทำ affilate ขายอีบุค
หากคุณชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวแบกเป้เที่ยว คุณไม่ควรพลาดที่จะอ่านบล็อกของท่านนี้ครับ ชายหนุ่มที่เริ่มต้นด้วยการมาเที่ยวแบ็กแพ็คที่ประเทศไทย แล้วหลงไหลการเที่ยวแบบนี้มาก กลับไปบ้านจึงเตรียมตัวลาออกจากงานประจำ แล้วเริ่มต้นเที่ยวไปเขียนบล็อกไป ใครจะไปคาดคิดละครับว่าบล็อกท่องเที่ยวของเค้ากลับมีคนติดตามเยอะมาก เค้าก็ได้รายได้จากการเขียนบล็อก แปะโฆษณา ขายอีบุคเช่นเดียวกัน บางครั้งก้ได้สปอนเซอร์ให้ไปเที่ยวด้วยครับ ชีวิตนี้สุดคุ้มค่าจริงๆ
ผมยกตัวอย่างมาสักสามท่านนะครับ จริงๆในไทยเองก็มีบล็อกเกอร์หลายท่านเหมือนกันที่มีผลงานออกมาโดยเริ่มต้นจากการเป็นบล็อกเกอร์ เช่น พี่อุ๊ย ที่กลายมาเป็นนักเขียนหนังสือหลายเล่ม อาทิ ตามหาสิริปัญโญ และเล่ม ฮาสาด ครับ
ส่วนเมื่อเร็วๆมานี้ก็มี theceoblogger ครับ เว็บไซต์บล็อกของคุณพอล ที่เดินหน้าทำบล็อกสายคุณภาพ ให้แรงบันดาลใจในการเป็นเจ้านายตัวเอง เค้าก็กลายเป็นคนที่มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลาม ทำรายได้ 6 หลักต่อปีเลยครับ
เมืองไทยยังมีบล็อกเกอร์ไม่เยอะเท่าไหร่ (บล็อกเกอร์สายคุณภาพ) จึงเป็นโอกาสที่ดีนะครับ ถ้าเราจะเป็นผู้เริ่มต้นคนแรกๆ มามะ มาเป็นบล็อกเกอร์กันเถิดเอย เดี๋ยวตอนต่อไป ผมจะมาสอนวิธีทำบล็อกกันครับ